วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เจ้าเฟื่องฟู(ต่อ)

เวลาลุงสมแกทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้านพักของแก จะมีเจ้าเฟื่องฟูอยู่ใกล้ ๆ มิได้ห่าง
เจ้าเฟื่องฟูก็กินอาหารแบบที่ลุงสมกิน  ไม่ได้กินอาหารเม็ดสำเร็จรูปเหมือนสุนัขบางตัว

ทุกเช้าถ้ามีโอกาสเดินผ่านบ้านลุงสม ฉันก็จะเห็นประตูรั้วปิด แต่ยังมองเห็นว่าประตูบ้านปิดไว้ชั่วคราว ลุงสม คงพาเจ้าเฟื่องฟู ไปเป็นเพื่อนเดินออกกำลังกาย

"ลุงสม วันนี้ไม่พาเฟื่องฟูไปเดินเล่นหรือ"  เสียงป้าสำรวยคนข้างบ้านลุงสม ถามขึ้นแต่เช้า
เมื่อยังเห็นลุงสม และเจ้าเฟื่องฟู ยังมิได้ออกไปไหน
"ฉันไม่ค่อยสบาย เวียนหัวอย่างไรชอบกล ขอพักก่อน " ลุงสมบอกกับป้าสำรวย
"พักนี้ หลาน ๆ หายไปนานแล้วนะ  ไม่มาเยี่ยมบ้างเหรอ ลุง" ป้าสำรวยถาม
"เขาบอก เขามีภาระ ต้องไปต่างประเทศ คงหลายวันจะมา" เสียงลุงสมตอบอย่างเรียบ ๆ

ฉันได้มีโอกาสไปเดินเล่นในหมู่บ้านที่ลุงสมอยู่ ด้วยที่นั่นจะมีสวนสาธารณะ สำหรับพักผ่อน...แล้ววันหนึ่งฉันก็เห็นลุงสมและเจ้าเฟื่องฟู เดินเล่น... คนสูงวัยเดินจูงสุนัข บางทีสุนัขก็พาวิ่งออกข้างหน้า บ้างก็วิ่ง บ้างก็เดิน บางที่เจ้าเฟื่องฟูก็ถูกลุงสมจูง บางทีลุงสมก็ถูกเจ้าเฟื่องฟูลากโซ่ที่ถูกจูง พาลุงสมให้วิ่งเหยาะ ๆ ตามไปที่ต่าง ๆ  ภายในสวนสาธรณะนั้น มองแล้วช่างเป็นภาพที่น่ารักสดใส ร่าเริงมาก ความผูกพันระหว่างสุนัขและคนเป็นสิ่งที่ประทับใจฉันเสมอ....

เมื่อเห็นลุงสมอยู่ที่ใด ก็จะเห็นเจ้าเฟื่องฟูอยู่ที่นั่นเสมอ......ลุงสมซื้ออาหารกิน แกก็จะแบ่งเจ้าเฟื่องฟูกินบางทีเจ้าเฟื่องฟูจะกินมากกว่าแก เสียอีก ฉันเห็นลุงสมซื้อลูกชิ้นปิ้ง แต่แกไม่ได้กินแม้แต่นิดเดียว.....
ทั้งสองชีวิตลุงสมและเจ้าเฟื่องฟูมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่ต้องทะเลาะ ไม่แก่งแย่ง มีแต่ให้และได้รับความรักตอบแทนอย่างเห็นได้ชัด

"เฟื่องฟูเป็นอะไรเหรอ เห่าทำไม" ป้าสำรวยพูดกับเจ้าเฟื่องฟูในเย็นวันหนึ่ง เมื่อเห็นเจ้าเฟื่องฟูทำท่าลุกลี้ลุกลน เห่าพลางวิ่งเข้า วิ่งออกในบ้านอยู่ไปมา เหมือนกับต้องการบอกอะไรสักอย่าง
สักครู่หนึ่ง ป้าสำรวยเริ่มไม่สบายใจ ว่าเจ้าเฟื่องฟูอาจจะต้องการบอกอะไรให้ใครสักคนรู้ ป้าสำรวยรีบตรงมาเรียกฉันที่หน้าบ้านญาติ บังเอิญนะ ที่ฉันแวะไปหาญาติพอดี "เข้าไปดูในบ้านลุงสม กับป้าหน่อย"
ฉันและป้าสำรวยเข้าไปในบ้านลุงสม เจ้าเฟื่องฟูเห็นฉันและป้าสำรวย มันแสดงความดีใจ รีบวิ่งเข้าไปในบ้านนำทางฉันเข้าไป ฉันและป้าสำรวยตกใจ ภาพที่เห็นคือ ลุงสม นอนอยู่ที่พี้นหน้าห้องน้ำ อย่างไม่ได้สติ  ป้าสำรวยเข้าไปเขย่าตัวลุงสม พลางนำยาดม มาให้ แต่ลุงสมก็ยังเงียบไม่รู้สึกตัว
"ต้องเรียกรถพาแกไปหาหมอไหมเนี่ย...เฮ้อ ..เอาไงดีล่ะ หลาน ๆ แกพักนี้ก็หายไป แกบอกเขาไปต่างประเทศกัน ทำไงดีเนี่ย..."  ในระหว่างที่แกรำพึง ฉันก็เห็นลุงสมขยับตัว "ป้า ลุงรู้สึกตัวแล้ว" ฉันเห็นลุงสมลืมตามอง
ลุงสมทำหน้า งง ๆ  แกเหลือบตาเห็นป้าสำรวยและฉัน " ฉันเวียนหัวหน้ามืด ดีนะที่ยังรู้สึกตัว เลยรีบนอนลงตรงนี้แหละ ออกจากห้องน้ำพอดี หลับไม่รู้เรื่องเลย นี่ฉันหลับนานเลยเหรอ" ลุงสมถามขึ้นเสียงเครือ "ฉันไม่รู้หรอกว่าหลับนานเท่าใด ได้ยินเสียงเจ้าเฟื่องฟู มันเห่า เลยรีบเข้ามา..." ป้าสำรวยพูดสีหน้ามีความกังวล
 "ฉันอยากให้ลุงสม ไปหาหมอบ้างนะ  ลุงต้องเป็นอะไรสักอย่าง เห็นบ่น ๆ ว่าเวียนหัวบ่อย ๆ " ป้าสำรวยยังพูดอีกหลายเรื่อง เช่น ลูกหลานก็ไม่ค่อยมาดูแล ลุงแก ก็มีแต่เจ้าเฟื่องฟูเป็นเพื่อน โถ ๆ มันก็เป็นหมา
"ไม่ ฉันไม่เป็นอะไร แค่เวียนหัวมันก็เป็นธรรมดาของคนแก่" ลุงสมยังพูดซ้ำ ๆ

จากวันนั้น ฉันก็ไม่ค่อยได้เห็นลุงสมและเจ้าเฟื่องฟูบ่อยนัก ลุงสมไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ลุงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายในบ้าน เห็นแต่เจ้าเฟื่องฟูวิ่งเล่นในบริเวณบ้านบ้าง ค่ำลงบ้านก็ปิด เช้าบ้านก็เปิด เป็นเช่นนี้อยู่ทุกวันนานหลายเดือนเชียวแหละ


วันนี้เป็นวันหยุด ฉันเดินผ่านบ้านลุงสม ตั้งใจจะไปเดินออกกำลังกาย และพักผ่อน ที่สวนสาธารณะในหมู่บ้าน ฉันเห็นคนมุงอยู่หน้าบ้านลุงสม ประมาณ 10 กว่าคน ฉันแปลกใจ เอ๊ะ ลุงสมมีงานอะไรทีบ้าน
มองเข้าไปในบ้านก็เห็นคนอีกจำนวนหนึ่ง ฉันหยุดอยู่หน้าบ้านลุงสม พยายามมองหาเจ้าเฟื่องฟู
และฉันก็เห็นเจ้าเฟื่องฟูเดินไปมาในบ้าน เขาทำอะไรกัน ทำไมคนเยอะอย่างนั้น....
และฉันก็เห็นป้าสำรวยหน้าตาป้าเศร้ามาก "ลุงสมแกเสียแล้ว ....เมื่อหัวค่ำวันวาน  ไม่มีใครรู้เลย
บ้านปิด เจ้าเฟื่องฟูมันร้อง เห่าหอน ทั้งคืน มันคงเสียใจและไม่รู้จะบอกคนอื่นให้ช่วยได้อย่างไร
จนเช้านี่แหละ ป้าเอะใจ เห็นเช้าแล้วแกไม่ตื่นให้เห็นหน้าเลย  ก็เลยเรียกคนเขามาช่วยงัดประตูบ้าน ก็รู้ว่าแกเสียชีวิตแล้ว "  ป้าสำรวยพูดเสียงเครือ น้ำตานองหน้า "นี่เขากำลังติดต่อญาติลุงสม  ป้าสงสารลุงสมจัง ทำไมแกไม่เชื่อป้า บอกให้แกไปหาหมอบ้างแกก็ไม่ไป"

ฉันยังยืนดูอยู่หน้าบ้านลุงสม เห็นเจ้าเฟื่องฟู เดินไปมา มันเงียบไม่เห่า มีใครเข้าบ้านกี่คนมันก็เงียบไม่เห่าเลย
ชั่วอึดใจ ฉันก็เห็นรถกะบะมาจอดหน้าบ้าน มีชายหญิง 3 คน ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน.....
และสักครู่ก็เห็นคนในบ้านนั้น นำลุงสมใส่เปลหามออกมาจากบ้าน....ใส่รถและขับออกไป...


จากนั้นบ้านลุงสมก็ถูกปิดเงียบ ไม่มีผู้ใดอยู่ที่นั่นอีกเลย..
เจ้าเฟื่องฟูล่ะ อยู่ที่ไหน มีใครเอามันไปเลี้ยงหรือไม่..ฉันพบป้าสำรวยในเย็นวันหนึ่ง...
"ป้าสำรวย เจ้าเฟื่องฟูมันอยู่ที่ไหนเหรอ ญาติลุงสมพามันไปอยู่ด้วยหรือเปล่า" ฉันถามป้าสำรวย
"เขาไม่ได้เอามันไป มันอยู่แถวนี้แหละ เย็น ๆ มันก็มานอนที่นี่ กลางวันมันก็ตะลอน ๆ ไปที่โน่นที่นี่
และบางทีก็ไม่เห็นมันเลยทั้งวัน มาเห็นมันอีกทีก็เช้านี่แหละ เห็นมันมานอนอยู่หน้าบ้านข้างรั้ว บ้านลุงสม ป้าเคยเอามาอยู่ในบ้าน แต่เหมือนมันไม่อยากอยู่นะ มันจะออกไป แต่ตอนเย็นมันจะมานอนที่หน้าบ้านลุงสมทุกคืน" ป้าสำรวยพูดต่อ...
"เดี๋ยวนี้ มันเหมือนจะบ้า ๆ นะ เนื้อตัวมันสกปรก เป็นขี้เรื้อน ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้ มันเห็นคนมันจะดุร้าย เห่าและไล่กัดเขา นานไป เขาเห็นมันเขาก็จะเอาไม้ตีมัน มันเลยไม่ค่อยมาให้เห็น"

ได้ฟังแล้วฉันรู้สึกสงสารเจ้าเฟื่องฟูจังเลย นี่ถ้าฉันเป็นผู้ใหญ่ตอนนั้น ฉันคงเอามันมาเลี้ยงแล้ว...

ฉันได้กลับไปที่หมู่บ้านลุงสมอีกครั้ง คราวนี้ฉันเห็นเจ้าเฟื่องฟู ตัวมันสกปรกมาก ขนที่เคยฟูสวย สะอาด    เปลี่ยนไปมาก ร่วงหลุด รุงรัง และมันก็มีบาดแผลเต็มไปหมด คงเป็นแผลคันตามตัวของมัน และแผลที่ถูกสุนัขอื่นกัด    ฉันเห็นมันไล่เห่ากัด เด็ก ๆ ที่เดินเล่น และขี่จักรยานในสวนสาธารณะ มันอดโซและ คุ้ยเขี่ยอาหารกิน มันแลบลิ้นห้อยอยู่บ่อย ๆ สภาพที่ฉันเห็นทำให้ฉันสงสารเจ้าเฟื่องฟูอย่างมาก

"อย่าไปใกล้มันนะ มันบ้าแล้ว มันไล่กัดเขาไปหมด หมาด้วยกันมันก็กัดและก็แพ้ออกมาทุกที ดูตัวมันซิมีแต่แผล มันเคยชื่อเฟื่องฟู เดี๋ยวนี้มีแต่คนเรียกมัน "ไอ้เฟื่องฟุ้ง" เพราะมันบ้า "....มีคนคอยเตือนเด็ก ๆ ที่เดินเล่นอยู่แถวนั้น...

ฉันเห็นเจ้าเฟื่องฟูเดินตรงไปทึ่หน้าบ้านลุงสม มันเดินวนไปมา อยู่ตรงนั้นนานแสนนาน แล้วล้มตัวลงนอน ทอดตัวยาวนอนหลับตานิ่ง ชั่วครู่ มันก็ลุกเดินแกมวิ่งเหยาะ ๆ  วิ่งไป เหยาะ ๆ  ฉันมองตามมันเห็นมันเลี้ยวออกถนนใหญ่ ที่มีรถแล่นผ่านไปมา มันวิ่งเหยาะ ๆ ๆ ๆ ๆ จนลับตา..เกินกว่าที่จะมองเห็น......

จากนั้นฉันไม่เคยเห็น  เจ้าเฟื่องฟู อีกเลย......



..........................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น