วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ลุงเกลี้ยง

ลุงเกลี้ยงมีอาชีพเป็นภารโรง ประจำโรงเรียนของฉัน  ครูทุกคนเรียกเขาว่า นายเกลี้ยง แต่ฉันและเพื่อนๆ เรียกเขาว่า ลุงเกลี้ยง

     ลุงเกลี้ยงเป็นคนใจดี เป็นคนซื่อ ยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกคน แม้เวลาที่ลุงถูกครูหลายคนใช้ให้ทำโน่นทำนี่ ลุงเกลี้ยงก็ยังยิ้ม ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย.....
     ฉันเห็นลุงเกลี้ยงทำทุกอย่าง เปิดปิดประตูโรงเรียนและห้องเรียน กวาดห้องเรียน กวาดเก็บเศษขยะ ที่สนามหญ้าหน้าเสาธง รดน้ำต้นไม้ ตัดหญ้า ตีระฆังบอกเวลา  ไล่สุนัขไม่ให้มารบกวนในโรงเรียน......
ทำหน้าที่เดินหนังสือระหว่างห้องพักครู ซื้อ สั่ง ส่งอาหารให้ครูตอบพักเที่ยง....ช่วยครูขายอาหารให้นักเรียนที่โรงอาหารด้วย และบางทีก็เห็นลุงเกลี้ยงหิ้วสัมภาระต่าง ๆ ไปส่งครูที่รถ
    ลุงเกลี้ยงอาศัยอยู่ในบ้านพัก ที่อยู่ในบริเวณโรงเรียน ลุงมีครอบครัว ภรรยาลุงชอบทำขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วนำมาขายเด็กนักเรียน เช่นมะขามกวน ทอฟฟี่ กล้วยทอด  แป้งจี่ บางทีฉันและเพื่อนก็จะแอบไปซื้อขนมเหล่านี้ ในบ้านพักของลุงเกลี้ยง

        มีหลายครั้งที่ฉันเห็น ลุงเกลี้ยงถูกดุ ครูบางคนเรียกใช้และไม่ได้ตังใจ ซึ่งฉันจะได้ยินครูบ่น ตอนที่ครูเรียกลุงเกลี้ยงมารับใช้ใน ชั่วโมงที่กำลังสอน และฉันก็ไม่ชอบเสียงบ่นของครูเลย
"เห็นไหมพวกเธอ คนไม่เรียนหนังสือ ก็มักจะพูดอะไรด้วยไม่ค่อยรู้เรื่อง  สั่งอย่างได้อย่าง " ครูมักจะหันมาทางนักเรียน เมื่อลุงเกลี้ยงเดินออกไปแล้ว...
      "พวกเธอก็ต้องเรียนเยอะ ๆ จะได้ไม่โง่"   "ชื่อเกลี้ยงสมชื่อจริง ๆ สมองเกลี้ยงพูดไม่รู้เรื่อง  ให้เดินเสียให้เข็ด ถ้าไม่ได้ตามที่สั่ง ให้เหนื่อยซะให้เข็ด"....ฯลฯ  ล้วนแต่เป็นคำที่ไม่น่าฟัง....บรรยากาศในห้องเรียนก็จะเครียดและขุ่นมัว
       แต่ฉันก็ยังเห็นลุงเกลี้ยงยิ้มตลอด แม้ลุงจะเดิน ไปมา หลายครั้ง ในธุระให้ครูเพียงเรื่องเดียวก็ตาม

      พวกฉันเคยพูดหยอกล้อลุงเกลี้ยงว่า ใครนะตั้งชื่อให้ลุง  และลุงเกลี้ยงก็มักจะพูดเปรย ๆ ว่า "ลุงเป็นคนอาภัพ พ่อแม่ตายตั้งแต่ลุงยังเล็ก ยายลุงก็แก่แล้ว เลี้ยงไม่ไหวพอลุงโตสักหน่อย ก็เลยเอาลุงไปฝากให้เป็นเด็กวัด ลุงอยู่ที่วัด โตมากับวัด  พอเป็นหนุ่มมาเจอป้า ก็เลยออกจากวัดมาอยู่ด้วยกัน ทำมาหากินอยู่กัน จนแก่นี่แหละ...ลูกเต้าก็ไม่มี..."  "ใคร ๆ เขาก็ว่า ลุงเป็นคนโง่  สอนอะไรก็ไม่จำ"    ลุงพูด เหมือนน้อยใจในโชคชะตา...แล้วลุงก็พูดต่อ....
"พวกหนูต้องเรียนเยอะ ๆ นะ จะได้ไม่โง่แบบลุง"
      ตอนนั้น ฉันไม่เคยคิดว่าลุงเกลี้ยงเป็นคนโง่เลย  ฉันมองว่าลุงเป็นคนซื่อ มีเมตตา และลุงก็ใจดีกับเด็ก ๆ  เวลาไปซื้ออาหารกลางวันในโรงอาหาร ฉันได้รับแถมจากลุงเสมอ ๆ
     ฉันเคยนึกสงสารลุง เมื่อเห็นลุงหน้าเศร้าเมื่อถูกครูดุ  ก็ได้แต่นึก และไม่ได้พูดอะไรให้ใครฟัง
และฉันไม่ชอบเลย เมื่อครูหลายคน เรียกลุงเกลี้ยงหรือตวาด ด้วยเสียงอันดังว่า "นายเกลี้ยง ! "
 
     เมื่อสบโอกาสฉันได้พบลุงเกลี้ยงบ่ายวันหนึ่ง ถามไถ่ลุงอยู่สักพัก.... "ลุงเหนื่อยไหม "  และอึดใจหนึ่งฉันก็คิดเรื่องชื่อของลุง..... "ลุงเปลี่ยนชื่อดีไหม  อย่าชื่อเกลี้ยงเลย เพราะมันเหมือนไม่มีอะไรเลย เกลี้ยง มันเหมือนไม่เหลืออะไร ชื่ออะไรก็ได้ ที่มีคำว่า บุญ  ดีไหมคะ ลุง" ....   ลุงเกลี้ยง อมยิ้ม.......
   
    เวลาผ่านไป จนวันหนึ่ง ลุงเกลี้ยงเข้ามาในห้องเรียน...  ครูกำลังสอน ฉันเห็นลุงเกลี้ยงนำสิ่งของบางอย่างส่งให้ครู คงเป็นของที่ครูสั่งให้นำมาให้   "ขอบใจนะ นายเกลี้ยง"  ครูพูด
ลุงเกลี้ยงออกจากห้องไปแล้ว สักครู่เดียว ลุงเกลี้ยงก็ย้อนกลับมาอีก 
   "ครูครับผมเปลี่ยนชื่อแล้วนะครับ"   ลุงเกลี้ยงบอกครู
   " อ้าว เหรอ แล้วเปลี่ยนเป็นอะไรล่ะ"   ครูถาม
  "เปลี่ยนตามที่หนูคนนั้นแนะนำ"  ลุงเกลี้ยงชี้มาทางฉัน

   เสียงลุงดัง ตอบครูอย่างภาคภูมิใจว่า "ผมชื่อ บุญเกลี้ยง" ครับ ..!!!!!

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่านแล้ว ไม่แคล้วต้องยิ้มมมมม...
    ที่บล็อกผมมี วีดิโอ ลีลาศ และภาพสวยยยยให้ชมครับ

    ตอบลบ