วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

เสนาะ - สนั่น

จันทร์แรม เป็นเพื่อนที่ทำงาน เธอแต่งงานแล้วมีบุตร 2 คน สามีชื่อเสนาะ เป็นคนดีรับผิดชอบครอบครัวดีมาก
เธอมักจะมีเรื่องสามีและลูกมาเล่าสู่กันฟังกับเพื่อนร่วมงานเสมอ ๆ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องน่ารักดี ๆ ดูดีจนเพื่อน ๆ พากันอิจฉา......
 
แต่ก็มีวันหนึ่งที่เธอนำเรื่องไม่สบายใจมาปรักษาฉัน.....
"หนูไม่สบายใจ เรื่องแฟน หนูว่ามันไปมีกิ๊กใหม่  แต่เป็นแฟนเก่าที่มันเคยคบกัน แล้วเลิก แต่วนมาเจอกันอีก"  จันทร์แรม พูดให้ฉันฟังในระหว่างที่เราทำงาน   ฉันมองหน้าและพยายามค้นหาว่า จันทร์แรมพูดเล่นหรือจริง  แต่ต้วยสีหน้าของเธอ ฉันก็อ่านออกว่าเธอกำลังกลุ้มใจ จริง ๆ
"เหรอ แล้วรู้ได้ไง หรือเขาทำให้เห็น ไปเจอเขาอยู่ด้วยกันหรือไง "  ฉันถาม
"แน่นอนว่าจริง... คุณเสนาะ เวลาเข้าเวรกลางคืน เขาแอบไปเจอกันหญิงคนนั้น คิดว่าเราไม่รู้  มีคนบอกค่ะ หนูเชื่อว่าเรื่องจริง เพราะคุณเสนาะ เปลี่ยนไป ..."  "คิดว่าเราเป็นจันทร์แรมล่ะซิ  เป็นแค่ชื่อ
เท่านั้นนะ ขอบอก "
หล่อนรำพันต่อ " คอยดูนะ จะแผลงฤทธิ์ ซะให้รู้จัก.."

มินานข่าวที่จันทร์แรมบอกว่า คุณเสนาะผู้เป็นสามี ไปมีหญิงอื่นก็แพร่กระจายไปทั่วในหน่วยงาน  ด้วยเธอจะนำเรื่องไปบ่นแกมปรึกษา เพื่อนคนโน้น คนนี้ จนเป็นข่าวและไม่เป็นความลับอีกต่อไป
 จันทร์แรม สีหน้าไม่สบายใจ ฉันคิดว่าเธอคงมีปากเสียงกับสามี บ่อยครั้งด้วยเรื่องนี้
เธอทำงานอย่างไม่มีสมาธิ เดี๋ยวหายไป ๆ ไม่ค่อยอยู่ติดโต๊ะทำงาน..
ผู้บังคับบัญชา เรียกจันทร์แรมไปพบวันหนึ่ง ไต่ถามถึงสาเหตุ ที่เธอขอลาพักผ่อน 3 วันติดกัน
หลังจากที่ได้คุยกันแล้ว จันทร์แรม ก็ออกจากห้องมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง
"หนูขอลาพักผ่อนไปเคลียปัญญาเรื่องคุณเสนาะ  ต้องเอาให้เด็ดขาด ไม่งั้นทำงานไม่ได้ ไม่สบายใจ"

เวลาผ่านไปแล้วครบ 3 วัน จันทร์แรม ก็มาทำงานตามปกติ....
วันแรกที่มาทำงาน เธอมีสีหน้าเคร่งขรึม เพื่อน ๆ เดาไม่ออกว่า เธออารมณ์อย่างไร วันนั้นจันทร์แรม ทำงานเงียบ ๆ ไม่พูดคุยกับใคร ใครถามอะไร เธอก็ตอบคำ  แบบถามคำตอบคำ......
วันที่สอง จันทร์แรมมาทำงานแต่เช้า แต่ขอลากลับบ้านครึ่งวัน เธอบอกว่าเธอเคลียปัญหาของเธอยังไม่เสร็จ เพราะตลอดเวลาที่เธอลาพักผ่อน เธอไปเฝ้าสามีเธอที่ทำงานของเขา แต่ไม่ได้ผลเพราะในช่วงนั้นเขาแลกเวรกับเพื่อนที่ทำงาน ทำให้เขาอยู่เวรกลางวันติดกัน 3 วัน ...พอวันที่ 4 และเป็นวันแรกที่จันทร์แรมต้องมาทำงานคุณเสนาะ ผู้สามี ต้องเข้าเวรกลางคืน ติดกัน 3 คืน  เธอจึงต้องลางานครึ่งวันเพื่อปฏิบัติภาระกิจเฝ้าสามีต่อ...

รุ่งขึ้นจันทร์แรม มาทำงานแต่เช้าหน้าตาค่อนข้างเคร่งเครียด เวลาผ่านไปจนเลยเวลาพักเที่ยง จันทร์แรมหายไปครู่เดียวก็กลับเข้ามาทำงาน เพื่อน ๆ และฉันเข้าไปทัก "จันทร์แรม กินข้าวแล้วเหรอ สบายใจบ้างหรือยัง คุณเสนาะ เป็นอย่างไรบ้าง เคลียกันเข้าใจกันหรือยัง...."

"เมื่อคืน หนูไปถึงที่ทำงานของเขาเลย ไปอาละวาดมาเรียบร้อยแล้วพี่..ถือมีดไปด้วย ไปประกาศลั่นที่ทำงานเขาเลยล่ะ  หนูบอกว่าหนูเป็นเมียคุณเสนาะ มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกกำลังเรียน ครอบครัวมีความสุขมาก ๆ ใครอย่ามาเป็นมือที่ 3  ทำลายความสุขในครอบครัวหนู".....จันทร์แรมเล่าด้วยอารมณ์แค้น..
"เพื่อนร่วมงานตกใจกันใหญ่ ว่ามีเรื่องอะไรกัน เขาเห็นหนูถือมีดด้วย เพื่อน ๆ เขามาบอกว่าให้ใจเย็น ๆ มีอะไรคุยกันได้  สักครู่คุณเสนาะก็มาเห็นหนูเขาก็ตกใจมาก  ว่าหนูมาทำไม "
"หนูก็เลยถือโอกาสเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เพื่อนฟัง ต่อหน้าคุณเสนาะ และเขาก็พากันพูดว่า เรื่องต่าง ๆ นั้น เป็นเรื่องส่วนตัวมาก ๆ เขาไม่อยากเข้ามายุ่ง แต่ที่เขาเห็นพฤติกรรม คุณเสนาะเป็นคนทำงานดี รับผิดชอบดี ไม่เหลวไหล ตรงต่อเวลามาก  เรื่องนอกลู่นอกทางบ้างกับครอบครัวเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายต้องมีบ้าง
แต่เขาขอให้หนูสบายใจ มีอะไรเกินเลยมากจนทำให้ครอบครัวเดือดร้อน เขาจะบอกให้หนูรู้ทันที "
จันทร์แรมเล่าเรื่องแต่อารมณ์ของเธอไม่ดีขึ้นเลย  " เพื่อนคุณเสนาะยังบอกว่า การที่หนูมาเฝ้า ทำให้เสียงานเสียสุขภาพ ให้หนูกลับไปพักผ่อนดูแลลูกดีกว่า..."  "ผู้ชายเขาก็เข้าข้างกันอย่างนี้แหละ"  จันทร์แรมยังทิ้งท้ายคำพูดไว้ อย่างโมโห...
"อีตาเสนาะ.ยังต่อว่าหนูต่าง ๆ นานา ว่าหนูไม่ให้เกียรติเขาทำให้เขาอายเพื่อน ไม่ให้หนูเอาเรื่องในครอบครัวมาเล่าให้ใครฟัง  เขาไม่ยอมให้เพื่อนมาตัดสินความไม่ดีของเขาเพราะหนูไปก่อกวน เขาบอกว่าให้หนูหยุด ..เขาบอกเรื่องระหว่างเขากับหนูเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ให้ใครเขามายุ่งเด็ดขาด " ..จันทร์แรมพูดระบายอารมณ์....

เวลาผ่านไปอีก วันนี้เป็นวันศุกร์ วันที่เราทำงานกันเป็นวันสุดท้ายของสัปตาห์ พรุ่งนี้เราจะหยุด 2 วัน
ช่วงเวลาบ่าย 2 โมง จันทร์แรมเดินมาหาฉัน พร้อมกับบอกเหมือนขอร้องให้ฉันทำอะไรบางอย่าง
"พี่ต้อย ช่วยอะไรหนูอย่างได้ไหม "  ฉันมองจันทร์แรม พร้อมกับนึกถึงคำบอกเล่าของจันทร์แรม ว่าคุณเสนาะคาดโทษไว้อย่างไร........." มีอะไรอีกเหรอ พี่ไม่กล้ายุ่งหรอก เดี๋ยวคุณเสนาะจะมาเคืองพี่"
"หนูรับรองว่าไม่ให้พี่เดือดร้อน พี่เชื่อหนูนะ"   มีเพื่อน ๆ  หลายคนได้ยินฉันพูดกับจันทร์แรม
และก็มีหลายคน ที่กล่าวว่า พี่ช่วยจันทร์เขาหน่อยแล้วกัน มันปรึกษาหลายคน เขาเห็นว่าพี่เป็นผู้ใหญ่ คุณเสนาะเขาไม่กล้าว่าพี่หรอก จันทร์ฯ กว่าเขาจะมาให้พี่ช่วย เขาปรึกษาหลายคนแล้ว ทุกคนก็ลงความเห็นว่าพี่ต้อย เหมาะสุด.......
เอาละซิ งานเข้าอีกแล้ว " พี่ไม่อยากยุ่ง พี่บอกแล้ว เรื่องครอบครัวพี่ไม่น่าจะไปเกี่ยวเลย..."
พี่ต้อย หนูเห็นว่ามีพี่คนเดียวเท่านั้นที่เหมาะ  นะพี่นะ "  จันทร์แรม อ้อนวอน ให้ฉันช่วย
สักพัก ฉันก็ถามว่า จะให้ช่วยอะไร.....

จันทร์แรมยิ้มและเพื่อนหลายคนก็ยิ้ม  " คืนนี้วันศุกร์ พรุ่งนี้คุณเสนาะหยุด เชื่อเถอะเข้าเวรคืนนี้ เขาออกเวรเขาต้องนัดกับยัยคนนั้นอีก  พี่ต้อยโทรไปที่บ้านแกล้งทำเป็นว่า พี่เป็นผู้หญิงคนนั้น และโทรมาหาคุณเสนาะพูดย้ำว่าเรานัดกันนะ พี่จำได้ป่าว อะไรทำนองนี้ พี่ต้อยทำหน่อยนะ"  จันทร์แรมบอกเรื่องที่ให้ฉันช่วย ..
"หนูจะจับให้ได้คาหนังคาเขา ว่ามันยังติดต่อกันไม่เลิก คอยดูนะหนูจะทำให้ถึงที่สุดเลย"
"จับไม่ได้หรอกพี่ นะ ช่วยหนูหน่อย..นะ นะ นะ " โทรจากเบอร์ที่ทำงานเข้าบ้าน เขาไม่รู้หรอก "  ว่าพลางจันทร์แรมก็หมุนโทรศัพท์ไปที่บ้านทันที
"ติดแล้วพี่ต้อย  เดี๋ยวถ้าคุณเสนาะรับพี่พูดเลยนะ"   จันทร์แรมส่งโทรศัพท์มาให้ฉัน  เพื่อนหลายคนมุงพากันลุ้น ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร
เอาล่ะ จวนตัวขนาดนี้ ก็ต้องทำแล้วล่ะ  ฉันรับหูโทรศัพท์..

"สวัสดีครับ พูดสายกับใครครับ...."
"พี่...เรานัดกันคืนนี้ ที่เดิมนะพี่นะ  เวลาเดิม ใช่ป่าว..."
เสียงจากสายเงียบไปอึดใจ.... "ใครครับใครนัดกับใคร คุณเป็นใครครับ"
ฉันใจเต้นตึกตัก "ก็นัดกับพี่ไงคะ "  "ไม่ใช่ครับผมไม่ได้นัดใคร คุณเป็นใครครับ..."
ฉันหันหน้าพยักพะเยิดทำบุ้ยใบ้ใส่จันทร์แรม และเพื่อน  ๆ สีหน้าทุกคนตื่น ว่าฉันจะจัดการอย่างไร
ในฉับพลัน "อ้าวววว ไม่ใช่พี่เหรอคะ ขอโทษค่ะ นั้นใครพูดคะ"   ....ฉันถาม...
"ผมเสนาะครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ"
ฉับพลันอีกเหมือนกันความคิดก็บังเกิด " อุ๊ย ขอโทษค่ะ นึกว่าเป็น คุณสนั่น ต้องการพูดสายกับคุณสนั่น นั่นไม่ใช่บ้านคุณสนั่นเหรอคะ"   ฉันเห็นเพื่อนที่ยืนลุ้นอยู่รอบตัว  กลั้นหัวเราะ
" ไม่ใช่ครับ ไม่เป็นไรนะครับ "
"งั้นขอโทษค่ะ นึกว่าบ้านคุณสนั่น  ขอบคุณสวัสดีค่ะ "  ฉันนึก..เกือบแล้วไหมเรา !!!!!!!
ฉันเห็นจันทร์แรม ทำหน้าปุเลี่ยน ๆๆ

พอวางสายโทรศัพท์ เพื่อน ๆ ที่ยืนลุ้น หัวเราะกัน ครื้นเครง
พี่ต้อยนี่ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งจริง ๆ  ฮ่า ๆๆๆ  ๆๆๆ
คิดได้ไงเนี่ย..เสนาะ-สนั่น....ฮ่า ๆๆๆ  ๆๆๆ