วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

บ้านไม้ชายทุ่ง

ตอนที่ 2 ฝนดาวตก
บนโต๊ะอาหารมื้อเย็น มีแกงส้มดอกแคกับกุ้ง ปลาทับทิมทอดกระเทียม และไข่เจียว
สมาชิกทั้ง 4 คนนั่งร่วมโต๊ะ กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย..
"อร่อยจังเลยคะ ป้าละมุน ต้องกินเยอะ ๆ เพราะคืนนี้จะนอนดึกคอยดูดาวตก นี่แกงจากดอกแคหน้าบ้านเราใช่ไหมคะ "
มาลัยพูดไปเคี้ยวอาหารไปด้วย.."อย่าเพิ่งพูดเคี้ยวให้หมดปากก่อน เดี๋ยวจะสำลัก"
เสียงป้าละมุนบอก" กินแต่พออิ่ม นอนดึกกลางคืนถ้าหิว ป้ามีของกินให้อีก นมไง จะไปอุ่นให้ร้อน ๆ ก่อนกิน"

ค่ำคืนแห่งการรอคอย... 3 ทุ่มกว่าแล้ว มะลิและมาลัย นั่งเล่นอยู่นอกระเบียงบ้าน กลิ่นดอกการะเวกหอมโชย คุณยายอังกาบปลูกไว้นานแล้ว และปล่อยให้มันเลื้อยพันอยู่ที่เสาริมระเบียง ด้านบนทำเป็นร้านให้มันเลื้อยจนหนา ใบและดอกดก และจะมีกลิ่นหอมยามเย็นถึงค่ำคืน...
 อากาศเริ่มเย็น และมีลมหนาวโชยมาเป็นระยะ ๆ  ความเงียบ ความมืด ฟ้ามีดาวพราวพร่าง บ้านที่อยู่ห่าง ๆ ก็เห็นแสงไฟบ้าง ดับมืดบ้าง...

"เข้าอยู่ในชายคาลูก หน้าหนาวน้ำค้างแรง เดี๋ยวจะไม่สบาย" เสียงคุณยายกังกาบบอกกับ
หลานทั้งสอง " อยู่ในชายคาก็มองเห็นนี่นา มองไปไกล ๆ เห็นไหมดาวเยอะเชียว ยิ่งดึกยิ่งเห็นมาก ไปเรียกป้าเขามานั่งด้วยกันซิลูก"

คุณยายอังกาบ ป้าละมุน มะลิร้อย มาลัยกรอง นั่งรวมกันอยู่ที่ม้านั่งริมระเบียงบ้าน ถึงแม้จะเป็นบ้านชั้นเดียว แต่มุมนี้มองออกไปข้างนอก คือทุ่งนาอันกว้างใหญ่ มีบ้านคนอยู่ห่าง ๆ อากาศเย็นและบริสุทธิ์มาก เมื่อสูดลมหายใจจะรู้สึกโล่งปลอดโปร่ง สมาชิกในบ้านหลังนี้จึงมีสุขภาพดีเพราะอากาศดี ไม่ค่อยมีมลภาวะ ถนนทางเข้าบ้านยังเล็ก ๆ รถจะวิ่งผ่านบ้าง มองดูเหมือนเปลี่ยว..แต่ตั้งแต่คุณยายอังกาบอยู่ที่นี่ ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรน่ากลัวจากใครเลย ....

ในที่ดินกว่า 200 ตรว. มีบึงเล็ก ๆ เกิดจากการขุดหน้าดินไปขายก่อนที่คุณยายอังกาบจะมาซื้อเสียอีก คุณยายบอกว่า ถ้าจะถมที่คงต้องใช้ดิน หลายคันรถ...แต่คุณยายก็ยังไม่คิดจะถม เพราะในบึงน้ำนั้นมีบัวกินสาย ผักกระเฉด ผักบุ้ง มากมายรอให้เก็บกิน และกุ้ง ปลา น้ำจืดอีกหลายชนิด
อีกทั้งยังมีต้นแคใหญ่ ปลุกไว้อีก 1 ต้นริมทางเข้าบ้าน ต้นแคหน้าหนาวกำลังออกดอกสะพรั่ง  มีหลายคนเข้ามาจะขอซื้อที่ดินผืนนี้ แต่คุณยายอังกาบก็ไม่คิดจะขายให้ใคร คุณยายบอกว่ารักและหวงแหนที่ดินนี้มาก เพราะอยู่แล้วสุขสบายใจ

สมัยเมื่อคุณตาโปรย ผู้เป็นตาของมะลิร้อย และมาลัยกรองยังมีชีวิตอยู่ ก็ได้อาศัยพืชผัก ปลา กุ้งนี่แหละ เป็นอาหารยามเมื่อไม่อยากไปที่ตลาด ซึ่งแต่ก่อนไปมาไม่สะดวกเลย...

"เมื่อไรจะเห็นดาวตกสักดวง นั่งอยู่นานแล้ว.." เสียงบ่นจากมาลัย(ยังมีต่อ)

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

บ้านไม้ชายทุ่ง

ตอนที่ 1 สี่ชีวิต
บ้านไม้ชั้นเดียวปลูกแบบง่าย ทาสีด้วยน้ำมันยาง...
คุณอังกาบ มีลูกสาว 2 คน ชื่อ ละมุนและละไม  คุณละไม แต่งงานกับ พ.อ จักรา มีบุตรสาว 2 คน คุณยายอังกาบและคุณละมุนผู้เป็นป้า ตั้ง ชื่อให้ว่า มะลิร้อย และมาลัยกรอง เมื่อคุณละไมคลอดมาลัยกรองได้ 5 เดือน ก็มีอันต้องเสียชีวิตไป ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว.....

เวลาผ่านไปได้ 7 ปี พ.อ จักรา ผู้เป็นบิดาของ มะลิร้อยและมาลัยกรอง ก็ขอปลีกตัวไปมีครอบครัวใหม่ คุณยายอังกาบและคุณละมุนผู้เป็นป้า และยังโสด  จึงได้เลี้ยง มะลิร้อย และมาลัยกรอง ไว้และอาศัยอยู่ที่บ้านไม้หลังเดิม ที่ชายทุ่ง....แต่พ.อ จักราผู้เป็นพ่อ ก็มิได้ทอดทิ้ง ลูกสาวทั้งสอง ยังส่งเงินให้ใช้จ่ายและมาหาด้วยความรัก เสมอ ๆ

ภายในบ้านหลังน้อยนี้ จึงมีผู้อาศัยอยู่ 4 คน มะลิร้อยและมาลัยกรอง อายุห่างกัน 3 ปี
ขณะนี้ มะลิร้อยอายุได้ 10 ปีแล้ว ส่วนมาลัยกรอง อายุได้ 7 ปีกว่า ๆ

คุณยายอังกาบและ ป้าละมุน เรียก หลานทั้งสองสั้น ๆ  ว่า มะลิ และมาลัย  ทั้งสองเลี้ยงหลานกำพร้าแม่มาด้วยความรักความผูกพัน และความสงสารทื่มีให้อย่างเต็มเปี่ยม .....

วันนี้เป็นวันหยุด ป้าละมุน ลุกขึ้นตื่น ไปตลาดแต่เช้าตรู่ ซื้อผักสด เต้าหู้เหลือง ปลา กุ้ง และผลไม้หลายอย่าง.....และเป็นวันที่ พ.อ จักรา จะมาพบบุตรสาวทั้งสอง
ป้าละมุนกลับจากตลาดแล้ว มองเห็นมะลิและมาลัยนั่งเล่นอยู่หลังบ้าน...
"มาเร็วมาช่วยป้าทำอาหารเช้ากินกันดีกว่า" ป้าละมุนเรียกหลาน
มะลิเดินเข้ามาในครัวตามมาด้วยมาลัย "ทำอะไรกินหรือคะ ป้า วันนี้พ่อจะมาที่นี่หรือคะ ดีเลยหนูอยากขอให้พ่อพาไปเที่ยว ทะเล อยากไป ๆ "
"นัดกับพ่อเขาไว้เหรอไง  เขาว่างเหรอ"
เงียบ เพราะทั้งสองคนไม่ได้นัดกับพ่อของเธอเลย
"เอาล่ะ เดี๋ยวพอพ่อเขามาก็ถามเขาก่อนว่า เขาว่างหรือเปล่า" พูดพลางป้าละมุน มือก็ทำงานไปด้วย ป้ากำลังต้มน้ำร้อน ชงชาร้อน และปิ้งขนมปัง
"มาลัย เอาชากับขนมไปให้คุณยายหน่อยซิลูก"
มะลิเป็นลูกมือช่วยป้าละมุนทำอาหารจนเสร็จ กับข้าวเช้านี้ เป็นข้าวสวย ผัดเต้าหู้เหลืองใส่ถั่วงอกและต้นหอม ไม่ใส่หมู และแกงพะแนงไก่ ที่ทำกินเป็นอาหารเย็นเมื่อวานแต่ยังเหลืออยู่ ป้าละมุนบอกว่า" เรากินกันน้อย ป้าก็ทำอะไร ๆ น้อย ๆ ไม่ค่อยเป็น  ทำเยอะก็เหลือ อุ่นแล้วนะ ช่วยกันกินของเก่าก่อน เย็นนี้จะทำแกงส้ม ไม่ให้เผ็ดหรอก กลัวหลานกินไม่ได้ ขนาดแกงพะแนงป้ายังลดน้ำพริก กลัวหลานจะเผ็ดเลย"

อาหารมื้อเช้ามีคุณยายอังกาบ ป้าละมุน มะลิ มาลัย  กินด้วยกัน เป็นอย่างนี้ประจำแทบจะทุกมื้อ
คุณยายอังกาบบอกป้าละมุน ให้หลาน ๆ กินข้าวร่วมโต๊ะ  หากเป็นไปได้ให้ทำอย่างนี้ทุกมื้อ
คุณยายอังกาบยังบอกอีกว่า " การกินอาหารร่วมกันที่โต๊ะอาหาร หรือวงอาหารที่ใด เป็นการแสดงถึงความรักความอบอุ่นที่ครอบครัวมีให้กัน มีอะไรก็พูดคุยกัน และถือเสมือนว่าเป็นการอบรมบ่มนิสัยให้ลูกหลานด้วย"
มะลิเคยได้ยิน คุณครูดุเด็กที่ไม่มีมารยาท และอุปนิสัยแย่ ๆ ว่า " นี่เธอคงไม่เคยกินอาหารร่วมโต๊ะ ร่วมมื้อ กับพ่อแม่ญาติพี่น้องเลยละซิ  ถึงได้สอนและอบรมบ่มนิสัยยากอย่างนี้" มะลิจำได้ดี

สายแล้ว พ่อของมะลิ และมาลัยก็ยังไม่มา สักครู่ป้าละมุนเดินมาบอกว่า "พ่อโทรมานะ ว่าวันนี้ติดราชการมาไม่ได้ วันหยุดเสาร์หน้า จะมาหาให้ได้"
มะลิ มาลัยหน้าสลด ป้าละมุน เข้ามาปลอบใจ "ไม่เป็นไรน่า เสาร์หน้าพ่อเขาก็มา ไปเดี๋ยวป้าจะพาไปเที่ยวเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน อยากไปไหนกันล่ะ"
"ไม่เป็นไรคะ ป้า หนูอยู่บ้านทำการบ้านดีกว่า แล้วคืนนี้จะคอยดูฝนดาวตก ที่หลังบ้าน ทีแรกนึกว่าจะไปพักที่ทะเล ชวนพ่อนับดาวตกที่ชายหาดสักหน่อย  คุณครูบอกให้นับว่า เห็นดาวตกกี่ดวง ใช่ไหม มาลัย"  "ใช่ ๆๆ หนูก็จะดูฝนดาวตกเหมือนกัน ค่อยเจอพ่อเสาร์หน้าก็ได้ค่ะ  ป้าละมุน"
สองพี่น้องสนทนากันต่อหน้าป้าละมุน...
"ดาวตกหลังบ้านเรามองเห็นได้ดีนะ ไม่ต้องไปถึงทะเลหรอกจ๊ะ "  เสียงของป้าละมุน บอกอย่างอ่อนหวาน
เป็นที่ตกลงกันว่า คืนนี้ มะลิร้อย มาลัยกรอง ป้าละมุน คงเฝ้าดูฝนดาวตก และก็จะชวนคุณยายอังกาบดูด้วยกัน....
คุณยายอังกาบบอกว่า "ฤดูหนาว ในคืนเดือนมืดฟ้าโปร่ง  จะมีดาวมากมาย แล้วเราก็จะเห็นดาวตกมากด้วย เราจะคอยเฝ้าดูดาวตกด้วยกัน...

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

บ้านไม้ชายทุ่ง

ท่านผู้อ่าน จะได้พบกับเรื่องราวชีวิต ของบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านไม้ชั้นเดียว
ที่ตั้งอยู่ที่ชายทุ่งนา ...สงบ ธรรมชาติสวยงาม ท้องทุ่งนาอันมีคุณค่าทางทรัพยากร...
จะมีเรื่องราวอันน่าติดตาม อย่างไร ....

ผู้เขียนหวังว่า ท่านอาจจะได้แนวคิด ในบางสิ่ง จากเรืองนี้ พอสมควร..

                                            ต้อย มีนบุรี ผู้เขียน