วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตลาดชีวิต

ชีวิตคนเรามีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันอยู่จนเป็นเรื่องปกติ คนทุกคนหนีสุขทุกข์ไปไมได้ เพียงแต่ว่าแต่ละคนจะมีวิธีแก้ทุกข์สุขนั้นอย่างไร บางคนก็หาทางออกไม่ได้ ก็มักจะโทษว่าเป็นเรื่องของกรรม ลองคิดดูจะเห็นว่า กรรมนั้นคือการกระทำ ผลแห่งการกระทำจะออกผลอย่างไร ก็คือเวรกรรม...หรือกรรมเวร

ดิฉันขอนำเรื่องชีวิตของแต่ละคน ที่ดิฉันได้พบเห็นและนำมาเล่าสู่กันฟัง  เป็นชีวิตของคนที่ทำการค้าขายอยู่ในตลาดแห่งหนึ่งใน กทม.  เรื่องราวของแต่ละบุคคลจะเป็นอย่างไร ท่านผู้อ่านจะได้อ่านต่อไป... ดิฉันขอใช้ชื่อเรื่องว่า "ตลาดชีวิต"


ตลาดชีวิต
ตอนที่ 1 วันเพ็ญ คนเข็ญใจ...
                     วันเพ็ญหญิงหม้ายหย่าร้างวัย 40ปี หล่อนมีลูกสาว 2 คน อาชีพของหล่อนเคยทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่ด้วยชีวิตที่สับสน ลุ่มหลงในอบายมุข ทำให้หล่อนเป็นหนี้เป็นสินมากมาย จนกระทั่งต้องตัดสินใจ ลาออก เพื่อนำเงินสะสมที่บริษัทจ่ายให้ นำไปใช้หนี้บางส่วน และแบ่งส่วนหนึ่งมาลงทุนขายของ สินค้าที่หล่อนเลือก คือ รองเท้าสตรีและเด็ก...หล่อนขายได้ดีในบางวัน และบางวันก็ไม่มีลูกค้าเลยสักคนเดียว ฉะนั้นค่าใช้จ่ายกับกิจการและค่าใช้จ่ายในครอบครัวจึงไม่อาจเพียงพอได้
มีคนแนะนำให้หล่อนกู้เงินจากผู้มีอันจะกินคนหนึ่ง ซึ่งหล่อนก็ต้องยอมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงร้อยละ 20 และต้องส่งทั้งต้นดอกเป็นรายวัน

                   วันนี้ มีคนมาหาวันเพ็ญที่ตลาด แต่ก็ต้องผิดหวังมีหลายคนรู้ว่า เป็นผู้ที่มาเก็บเงินรายวัน จากแม่ค้าหลายคน ทุกคนจ่ายเงินให้แก่เขา ยกเว้นวันเพ็ญ หล่อนไม่มาและไม่ได้ฝากเงินให้ใครจ่ายให้
"พรุ่งนี้จะมาใหม่ ฝากบอกวันเพ็ญ ด้วยผมจะมาก่อนเที่ยง" เขาทิ้งคำพูดไว้กับแม่ค้าร้านใกล้เคียง..(โปรดรออ่านตอนต่อไป)